ประวัติและพัฒนาการ
ของบริษัท

ความเป็นมาของบริษัท

บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2548 ด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 200 ล้านบาท โดยธุรกิจหลักในช่วงแรกของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจแปรรูปปลาทูน่าเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมทานบรรจุในภาชนะปิดผนึก (Human Food) เป็นหลัก และมีการนำส่วนที่เหลือจากการ แปรรูป ปลาทูน่า เช่น ทูน่าเนื้อแดง (Red Meat) มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร สัตว์เลี้ยงแบบเปียก (Wet Pet Food) ควบคู่ไปด้วย เนื่องจากปลาทูน่าเป็นวัตถุดิบที่ให้โปรตีน สูงและมีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับวัตถุดิบชนิดอื่นๆ จึงนิยมใช้เป็นแหล่งโปรตีนหลักใน อาหารสัตว์เลี้ยง

ในปี 2554 บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม จากการที่แนวโน้มของประชากรโลกเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และแนวโน้มความนิยมในการเลี้ยง สัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนหรือเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น (Pet Humanization) ส่งผล ให้บริษัทมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยการปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม

บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงมาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านวัตถุดิบ และสูตรการผลิตจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,125 ล้านบาท และมีการขยายกำลังการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้จัดตั้งบริษัทย่อยบริษัทร่วม และกิจการ ร่วมค้า เพื่อดำเนินการด้านการพัฒนาแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของตนเอง โดยที่ปัจจุบันมีแบรนด์ของตนเอง ได้แก่ monchou Hajiko และ PRO และมีแบรนด์ร่วมกับ Petrina ได้แก่ แบรนด์ MARIA

พัฒนาการของบริษัท

2548
  • ASIAN จัดตั้ง AAI ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจผลิต ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุในภาชนะปิดผนึก และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก
2551
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 1,200 ล้านบาท
2554
  • เริ่มปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจโดย การปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจอาหาร สัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม
2557
  • เริ่มปรับกลยุทธ์ของธุรกิจผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุในภาชนะปิดผนึกโดยพิจารณาเลือกรับคำสั่งซื้อที่มีอัตรากำไรที่เหมาะสม และปรับตัวเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า (Value Added Products) มากขึ้น
  • รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม ซึ่งใช้เนื้อขึ้นรูปใหม่ (Reformed Meat) เป็นวัตถุดิบหลัก
2558
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เป็น 1,700 ล้านบาท
2560
  • ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น
2561
  • เข้าสู่ธุรกิจแบรนด์ของตนเองโดยจัดตั้งบริษัท APCC เพื่อทำการตลาดและจัดจำหน่าย
  • ตั้ง THAIYA ที่ประเทศจีน เพื่อจัดจำหน่ายแบรนด์ของตนเองที่ประเทศจีน
  • ตั้ง AGE ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าที่เยอรมัน และขยายตลาด OEM
  • จัดตั้งกิจการร่วม บริษัท IPN เพื่อจัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ MARIA
  • เริ่มลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ มูลค่าประมาณ 280 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
2562
  • เปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง Monchou
  • APCC และ THAIYA เข้าลงทุนในโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในประเทศจีน โดยการจัดตั้ง MEISI
    ร่วมกับ Shangdong Meisi Pet Food Co., Ltd.
2563
  • เปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง Hajiko
2564
  • ปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้กลุ่ม ASIAN โดยให้ AAI เข้าถือหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย APCC, THAIYA, AGE, IPN และ MEISI
  • ออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในกลุ่ม Monchou Balanced
2565
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2,125 ล้านบาท
  • จดทะเบียนแปรสภาพ เป็นบริษัทมหาชน
  • APCC เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์โปร (Pro)
2566
  • ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นจาก 42,000 ตัน เป็น 49,500 ตัน
  • ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC Certified)
  • ได้รับรางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2023 จาก Deloitte
  • ได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ประจำปี 2566 จากสถาบันไทยพัฒน์
  • ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ระดับ 4 ดาว หรือ “ดีมาก”
2567
  • ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอีก 6,500 ตัน จาก 49,500 ตัน เป็น 56,000 ตัน
  • ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ESG100 ประจำปี 2567 จากสถาบันไทยพัฒน์
  • ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ระดับ 4 ดาว หรือ “ดีมาก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2